
รีวิวเกม: Fuga สำหรับการมาของ Fuga: Melodies of Steel การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 จะเป็นผลงานของค่ายนี้ Network Connection 2 ถือกำเนิดขึ้นจากการผสมผสานระบบ RPG แบบเทิร์นเบสแบบเก่าเข้ากับการเล่าเรื่องแบบกราฟิกที่เข้มข้น ล่าสุดมีการสร้างภาคต่อในปี 2023 สำหรับคนที่ยังไม่เคยเล่นภาคแรก นี่คือหนึ่งในเกมที่ออกแบบโดย Nobuteru Yuki เกี่ยวกับโลกสมมุติที่ตั้งอยู่ในฝรั่งเศสช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่อยู่ในโลกของสัตว์ เพราะตัวละครในเกมจะเป็นสุนัข ที่จะเรียกว่า (Caninu) และแมวที่จะเรียกว่า (Felineko) ซึ่งดูแปลกตาแต่ผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืน เกมดังกล่าวมีให้สำหรับ Nintendo Switch, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One, Xbox Series X/S และ PC
เรื่องราวเกม Fuga
เรื่องราวใน Fuga: Melodies of Steel 2 ดำเนินเรื่องหนึ่งปีหลังจากภาคแรก หลังจากสงครามยุติลงด้วยการพักรบระหว่างสองประเทศ แต่ความสงบสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อรถถังลึกลับชื่อ “ทารานิส” ติดอาวุธด้วยอาวุธใหม่ที่ทรงพลังออกอาละวาดทั่วเมือง การพาตัวละครหลักเข้าร่วมปาร์ตี้อีกครั้งฟังดูธรรมดาๆ แต่เรื่องราวก็เล่าได้ดี ดราม่าน้ำตากระตุกและการเสียสละของตัวละครที่ผู้เล่นเลือกได้ ทำให้เป็นอีกจุดเด่นของเกม

กราฟิก
หากคุณเคยเล่นภาคแรก คุณจะรู้ว่าข้อเสียของเกมคือกราฟิกดูธรรมดาไปหน่อย สำหรับภาคต่อดูเหมือนว่าผู้สร้างหลักจะไม่ได้ให้ความสนใจกับภาคนี้มากเท่าภาคก่อน เพราะกราฟิกในเกมยังคงเดินตามรอยภาคแรกซึ่งจำลองการวาดแบบ 2D เสมือนกราฟิกในเกมทำให้ตัวละครดูแบนๆ แบบ 2 มิติ ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้สร้างเช่นกัน แต่ก็ดูดีพอสมควรเพราะเหมือนเราอ่านมังงะไปพร้อมกับเล่นเกมไปด้วย น่าเสียดายที่เมื่อไรก็ตามที่มีการสร้างภาคต่อก็ควรจะมีการอัพเกรดเพิ่มเติม โดยทั่วไปแล้วมันเป็นเกม PS2 เช่นเดียวกับเกมแรกและเป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นเกมที่ไม่มีทุนมากนัก แต่ยังคงดีเช่นเคยคือระบบเสียงและเพลงพื้นหลังและการแสดงเสียงคุณภาพสูง แม้จะไม่ครบทุกภาคของเกมก็ตาม ข่าวดีก็คือเป็นพากย์ญี่ปุ่นที่คนไทยน่าจะชอบเช่นกัน (แต่ตัวเกมเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)


เกมเพลย์
อย่างที่ฉันได้กล่าวไปแล้วว่ารูปแบบการเล่นนั้นเป็นเกม RPG แบบเทิร์นเบสที่มีมุมมองด้านข้างแบบ 2 มิติ ฉากแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ สนามรบที่ผู้เล่นจะได้นั่งบนรถถังขนาดยักษ์ แต่จะไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง เนื่องจากรถถังจะเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวาด้วยตัวมันเอง แต่จะมีจุดหนึ่งในฉากที่คุณต้องหยุดเพื่อทำภารกิจ เช่น ต่อสู้กับศัตรูหรือทำเรื่องราวสำคัญให้สำเร็จ และแกนหลักของเกมคือระบบการต่อสู้ เมื่อเจอศัตรูในฉากก็จะเข้าสู่โหมด Turn-Based RPG และต้องรอเวลา ผู้เล่นจะได้เลือกอาวุธต่างๆ ที่ติดตั้งบนรถถังเพื่อทำการโจมตี ปืนแต่ละชนิดจะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันให้เราเลือกชนิดของปืนให้ถูกกับข้าศึกได้ด้วย เช่น เวลาเจอเครื่องบินเล็กต้องใช้ปืนกลจะได้ผลดีกว่าใช้ปืนใหญ่ที่อาจสู้ไม่ได้ ตีมัน.

ระบบต่อสู้แบบ RPG
นอกจากนี้ยังมีแผนการรบที่ละเอียดพอสมควร เนื่องจากเทิร์นจะหายไปเมื่อศัตรูถูกโจมตี ผู้เล่นจะได้รับแจ้งอย่างชัดเจนในแถบด้านบนว่าตัวละครตัวไหนที่จะโจมตีในเทิร์นนั้น ให้ผู้เล่นวางแผนว่าจะยิงฝ่ายไหนก่อนเพื่อให้ได้เปรียบในการต่อสู้ และมีท่าพิเศษที่เล่นได้หลากหลายมากขึ้นภาคนี้มีมาตั้งแต่ภาคแรกแต่อัพเกรดประเภทปืนและท่าพิเศษมากขึ้น
แน่นอนว่าภาคต่อยังคงมีส่วนเสริมบางอย่าง ใน Fuga: Melodies of Steel 2 ได้เพิ่มรถถังใหม่เพื่อให้ผู้เล่นใช้รถถังที่ทรงพลังมากขึ้น และยังมาพร้อมท่าไม้ตายใหม่ๆที่น่าใช้กว่าเดิมอีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนผ่านระบบเมนูเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนมาใช้ปืน ทำให้การต่อสู้น่าสนใจขึ้น โดยเฉพาะตอนสู้กับบอสตอนจบฉาก มันทำให้เราเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตลอดเวลาและโจมตีอย่างรุนแรงด้วยปืนใหญ่ หรือใช้ทักษะขั้นสูงสุดที่โหดร้ายเพื่อส่งผลต่อรถถังของเราหรือบล็อกการโจมตีของศัตรูได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

สรุป
รีวิวเกม: Fuga เป็นภาคต่อของเกมต่อสู้รถถังที่มีกราฟิกน่ารักแต่ล้าสมัย แต่ถ้าดูเกมเพลย์ที่ไม่ต้องการกราฟิกที่สวยหรู มันก็ดีพอๆ กับภาคแรก แม้จะมีการอัพเกรดเสริมจนบางครั้งคิดว่าเล่น DLC คือส่วนเสริมอัพเกรดแต่ความสนุกยังเหมือนเดิมไม่ลดลง คนที่ชอบภาคแรกควรไปภาคสอง