รีวิวเกม Harvest Moon :The Winds of Anthos

มาทําความรู้จักกับ เกม Harvest Moon
เชื่อว่าแฟน ๆ ที่เคยเล่นเกมฟาร์มผักในตำนานอย่าง รีวิวเกม Harvest Moon คงจะทราบดีว่าหลังจากการแสดงครั้งนี้ บริษัทที่ชื่อว่า “Harvest Moon” ได้พัฒนาเกมของตัวเองขึ้นมาอย่างอิสระ ส่วนทีมเดิมเปลี่ยนชื่อเป็น Story of Seasons แล้วบอกว่าแบ่งเป็น 2 เกมให้เล่นด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ผลงานเกม “Harvest Moon” ยังไม่ออกมาดีนัก เพราะทีมเดิมไม่ได้มาเพื่อผลิต บางส่วนทำมาได้ไม่ดีและแม้แต่เกมฟรีบนสมาร์ทโฟนก็ดูดีขึ้นมาก แต่ “Harvest Moon: The Winds of Anthos” ที่ออกในงานแถลงข่าวได้สร้างความประทับใจแรกให้กับผู้คนเพราะภาพดังกล่าวได้รับการยกขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในส่วนของตัวละครนั้นสัดส่วนมีความสมจริง ไม่มีหัวโตแบบ SD เหมือนเกมก่อนๆ และมีความน่าสนใจมากกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะเชื่อว่าแฟน ๆ อาจจะหวังว่ามันจะยกระดับซีรีส์ Harvest Moon ให้ดีเท่ากับ Story of Seasons เกมดังกล่าวมีวางจำหน่ายบน Nintendo Switch, PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox One, Xbox Series X และ Series S วางจำหน่ายบนพีซีด้วย
เรื่องราวของ Harvest Moon: The Winds of Anthos เกิดขึ้นในดินแดนอันเงียบสงบของ Anthos ที่ซึ่งเทพธิดาและเอลฟ์เก็บเกี่ยวปกป้องดินแดนจากภัยพิบัติ แต่แล้วภัยพิบัติก็เกิดขึ้น เพราะมีการระเบิดครั้งใหญ่ในภูเขาไฟ และเหล่าเทพเจ้าก็ใช้พลังทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ภัยพิบัติเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เทพเจ้าก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ช่วยให้ผู้เล่นค้นหาและคืนทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ของ Anthos ได้อีกครั้ง

กราฟิกเกม Harvest Moon
ฟีเจอร์แรกที่ควรเป็นจุดขายในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาก่อนที่เกมจะออกคือกราฟิกที่สวยงามที่ดูดีกว่า Harvest Moon แบบเก่า แต่เมื่อคุณได้สัมผัสกับของจริง ไม่เหมือนที่คุยกันไว้ เพราะทุกอย่างยังขาดรายละเอียดทั้งฉากและตัวละครและคล้ายกับเกมบน PS2 มากกว่าเกมที่ดีในยุคนี้ สิ่งนี้ทำให้ผู้ที่ต้องการบริโภคของที่ดูสวยงามผิดหวัง เนื่องจากเงินทุนในการผลิตยังไม่สูงเท่ากับเกมที่แล้วตัวละครในเกมจึงมีการปรับให้สมจริงมากขึ้น แต่การเคลื่อนไหวยังคงดูแข็งกระด้างและไม่สมจริง และการแสดงออกทางสีหน้าก็เรียบง่ายและไม่โดดเด่น เป็นเรื่องจริงที่เกมทำฟาร์มไม่จำเป็นต้องมีกราฟิกที่สวยงาม แต่หากลงทุนเพิ่มอีกนิดก็จะยกระดับซีรีส์ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนเพลงประกอบนั้นเรียบง่ายมาก เน้นเพลงที่ผ่อนคลาย ผ่อนคลาย แต่เข้ากับฉากของเกมได้ดีมาก นี่คือเมืองชนบทที่ผู้คนใช้ชีวิตแบบช้าๆ และไม่เร่งรีบ น่าเสียดายที่ยังไม่มีการพากย์เสียงเหมือนเช่นเคย

เกมเพลย์ระบบต่างๆ

เมื่อเราเริ่มเล่นเกมพื้นฐานของการปลูกผักก็เข้าใจง่าย เช่นเดียวกับปกติ เราจะต้องไถพรวนดินด้วยจอบ หว่านเมล็ดพืช ใส่ปุ๋ย รดน้ำ แล้วเก็บเกี่ยวพืชผลเพื่อขาย ส่วนนี้ดูเรียบง่ายนิดหน่อย และไม่มีอะไรใหม่อย่างที่คาดไว้ แต่ในด้านบวก นี่คือรูปแบบที่เราคุ้นเคยและชื่นชอบในซีรีส์การปลูกผักตั้งแต่ภาคแรก และข้อได้เปรียบประการแรกที่เราเห็นคือผู้สร้างได้ปรับแต่งรูปแบบการเล่นให้ราบรื่นขึ้นมาก เช่น ปรับระบบให้ใช้รายการที่ไม่ต้องกดเมนูเปลี่ยน ทำให้เล่นได้ลื่นไหลกว่าเดิม เช่น ถ้าเราไถพรวนดินและอยากเพาะเมล็ดพืช เราก็ทำต่อไปได้ ตัวละครจะรู้ว่าดินส่วนนี้ถูกไถแล้วและกำลังจะเพาะเมล็ด เพียงเลือกชนิดพันธุ์พืชที่ต้องการปลูกแล้วกดเมนู แต่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและไม่น่าเบื่อเลย ในส่วนของระบบสุขภาพ สถานการณ์ดูจะยากลำบากเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำหนักแทบจะไม่ลดลงเมื่อเคลื่อนย้ายคุณจึงสามารถเล่นได้อย่างสบายใจ

ฉากแบบ 3 มิติ
ฉากของเกมเป็นแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะมีหลายพื้นที่ที่ใช้วิธีนี้ แต่ก็ทำได้ดีพอสมควร ดินแดนใน Anthos ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็มีอะไรให้ทำมากมาย สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เคยเห็นมาแล้วในตอนก่อนๆ เช่น การตกปลา หรือหาวัตถุดิบมาสร้างสิ่งต่างๆ เช่น การตัดต้นไม้เพื่อให้ได้ไม้มาทำเฟอร์นิเจอร์ หรือสำรวจเหมืองเพื่อค้นหาแร่ธาตุหายากเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและยังมีระบบปศุสัตว์ที่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม และมีความหลากหลายมากกว่าภาคอื่นๆ ส่วนนี้เหมาะสำหรับคนชอบเลี้ยงสัตว์ มีบอกใบ้ล่วงหน้า และบางสายพันธุ์ก็ทำให้เราประหลาดใจ
ส่วนระบบสร้างความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ก็ใช้ได้ และสามารถต่อไปจนถึงการแต่งงานได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะมีรายละเอียดไม่มากเท่าใน “Story of Seasons” ซึ่งยังคงมีข้อเสียอยู่ เรื่องราว และตัวละครยังด้อยกว่าและไม่สามารถแข่งขันกับภาคนี้ได้ แต่ก็ดูค่อนข้างดีเพราะรูปแบบการเล่นมีความลื่นไหลและเข้าใจง่ายสำหรับแฟนเกมหน้าใหม่ที่ต้องการลองเล่น
สรุปโดยรวม

ซีรีส์การทำสวนผัก “Harvest Moon: The Winds of Anthos” กลับมาอีกครั้ง และหากคุณคาดว่าจะยกเครื่องใหม่ทั้งหมด คุณอาจผิดหวังเพราะหลายส่วนเหมือนกัน นอกจากนี้รายละเอียดของเกมยังเทียบไม่ได้กับ “Story of Seasons” อีกด้วย แต่ข้อดีคือใช้งานง่ายและราบรื่นไม่มีสะดุด ใครก็ตามที่ชอบเล่นเกมทำฟาร์มแบบไม่มีความเครียดมากเกินไปก็สามารถพบกับความสนุกได้