รีวิวเกม Pikmin 1+2 เป็นหนึ่งในซีรีย์เกมที่ได้รับความนิยมอย่างเงียบๆของ Nintendo หากคุณไม่ใช่แฟนของปู่หนิงคุณอาจไม่รู้แม้จะมี Pikmin Bloom ซึ่งเป็นเกมสมาร์ทโฟนจากผู้พัฒนา Pokemon GO Niantic Labs ก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ได้โฆษณาอย่างที่สมควรได้รับ การปล่อย Pikmin 1+2 ลง Nintendo Switch ดูเหมือนจะเงียบไปสักหน่อย แต่การกลับมาของเกมหลักอย่าง Pikmin 4 ทำให้ Pikmin 1+2 มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่ามีแฟนๆ บางคนที่ไม่เคยเล่นและอยากลองหาภาคเก่าๆ มาเล่นก่อน แล้วมาสัมผัสภาคใหม่ๆ ของเกม “Pikmin 1” และ “Pikmin 2” ที่ออกบน Nintendo Switch ซึ่งทั้งสองภาค มีจำหน่ายแยกหรือ 2 ส่วนรวมกันในราคาย่อมเยา สำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นมาก่อน Pikmin เป็นเกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ (RTS) ผสมกับปริศนา สิ่งนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความรุนแรงที่เกม RTS ทั่วไปใช้เพราะ Nintendo คิดต่างออกไปโดยเพิ่มความน่ารักและแรงบันดาลใจจากวิธีที่ผู้สร้าง Shigeru Miyamoto มองเห็นมดในสวนหลังบ้านของเขา เขาถือใบไม้ สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะสร้าง Pikmin ในเกม คุณจะได้สวมบทบาทเป็นกัปตัน Olimar เรือบรรทุกสินค้าจากต่างดาวที่เรือประสบอุบัติเหตุชนกันเล็กน้อย ยานอวกาศลงจอดบนดาวเคราะห์ที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่ และผู้เล่นต้องหาทางซ่อมแซมยานอวกาศ แต่หลังจากสืบสวน Olimar เขาพบว่าดาวเคราะห์ดวงนี้มีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่าง Pikmin ที่ตัวเอกสามารถอัญเชิญได้ เราสามารถสำรวจดวงดาวเพื่อค้นหาสิ่งของและหาทางกลับบ้านได้
กราฟิก เกม Pikmin 1+2
ตอนแรกนึกว่าเมื่อ รีวิวเกม Pikmin 1+2 ลง Switch ปู่หนิงจะลงทุนปรับจอใหม่ แต่เมื่อคุณได้สัมผัสมัน ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่จะหยิบกราฟิกต้นฉบับจาก Gamecube และพอร์ตไปยังสวิตช์ ปรับแต่งภาพให้คมชัดขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับทีวีรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามราคาไม่แพงและถ้าคุณซื้อ 2 เกมเป็นชุดพร้อมกันก็จะยิ่งถูกลงซึ่งรับได้
แต่ถ้าคุณเพิกเฉยก็รับได้เพราะเป็นการขายต่อไม่ใช่การรีเมค อีกส่วนที่ประทับใจไม่เปลี่ยนคือเพลงประกอบที่มีลีลาน่ารักตามสไตล์การเล่นของ Nintendo ซึ่งอาจจะไม่มีเพลงประกอบหรือเสียงพากย์ที่ติดหูเหมือนซีรีส์อื่นๆ แต่มีเพลงประกอบเพื่อสร้างบรรยากาศและทำให้เกมน่าสนใจยิ่งขึ้น
เกมเพลย์ตะลุยโลกจิ๋ว
จุดแข็งของ Pikmin อยู่ที่การใช้เกมเพลย์แบบเรียลไทม์ (RTS) เพื่อสร้างรูปแบบที่น่ารักและไม่รุนแรงที่ฝ่ายอื่นๆ ชอบใช้ใน RTS ในเกมสงคราม และรวมอยู่ในเกมสำรวจปริศนา ผู้เล่นสามารถสั่งให้ Pikmin สำรวจฉากและค้นหาวัตถุและนำพวกมันกลับไปที่ยานอวกาศ ในฉากแม้จะเป็น 3D ที่เปลี่ยนมุมกล้องได้ แต่จะมีขอบเขตการมองเห็นเหนือ Pikmin ส่วนใหญ่ และ Pikmin สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ผู้เล่นจะสามารถสั่ง Pikmin ได้ 2 วิธี คือ ทำให้พวกเขาติดตามเรา อีกวิธีหนึ่งคือการโยนมันและให้มันรับของที่หล่น หรือจะขว้างไปโจมตีศัตรูก็ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ เราก็ต้องคำนึงถึงจำนวน Pikmin ที่เรามีด้วย เนื่องจากขนาดของไอเทมจะพิจารณาจากชิ้นส่วนเล็กๆ แต่บางชิ้นใหญ่ต้องหลายชิ้น จะมีตัวเลขระบุว่าต้องใช้กี่พิคมินซึ่งเข้าใจง่าย
การต่อสู้และตัว Pikmin ที่หลากหลาย
เช่นเดียวกับการต่อสู้กับศัตรูหรือบอส ผู้เล่นต้องคิดให้รอบคอบ เพราะหากมีตัวละครไม่เพียงพอ อาจถูกกินหมดได้ และพิกมินไม่ได้มีแค่แบบเดียวยังมีอีกหลายรูปแบบ ยังสามารถเลือกใช้ได้อีกด้วย ซึ่งแต่ละตัว ก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันไป เช่นสีแดงตัวแรกกันไฟหรือสีที่เหลือป้องกันไฟฟ้าได้ เป็นต้น ส่วนที่สองจะเพิ่ม Pikmin สีม่วงซึ่งมีพลังมากกว่า Pikmin ธรรมดาถึง 10 เท่า ผู้เล่นต้องเลือกชนิดให้ถูกต้อง เพราะหากใช้ไม่เหมาะสมแล้วทีมอาจตายได้
ฉากในเกมแบ่งเป็นวันและเวลาจำกัดเพราะเล่นได้เฉพาะกลางวันเท่านั้น พระอาทิตย์กำลังจะตกดินต้องรีบกลับขึ้นเรือ ทำให้เราต้องวางแผนอย่างรอบคอบว่าจะสำรวจที่ไหน หรือใช้ทีม Pikmin เพื่อค้นหาวัตถุที่ซ่อนอยู่หรือต่อสู้กับศัตรู Let’s Play Another Louie ยังรองรับการเล่นแบบแยกหน้าจอกับเพื่อน ให้มีความหลากหลายมากขึ้น
น่าเสียดายที่การกลับมาของเกม RTS สุดน่ารักอย่าง Pikmin 1+2 นั้นไม่ได้เปลี่ยนกราฟิกให้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้นเลย เพราะแค่ปรับความคมนิดหน่อยก็ทำให้เป็นแค่คอลเล็คชั่นเก่าตัวโปรดที่ขายมากว่า 20 ปี เฉพาะช่วงปีใหม่เท่านั้น แต่ความมันส์ ของเดิมยังเหมือนเดิมแถมพกไปเล่นข้างนอกได้ด้วย สำหรับท่านที่อยากลองเล่นก่อน Pikmin 4 เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รอคอย
ติดตามรีวิวเกมใหม่ : รีวิวเกม
สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : gtaclubth
รีวิวเกมใหม่ : Etrian Odyssey
