รีวิวเกม Various Daylife

มาทําความรู้จักกับเกม Various Daylife
เกม Various Daylife สำหรับค่าย Square Enix มุ่งเน้นไปที่การสร้างเกม RPG ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากซีรีส์หลักอย่าง Final Fantasy และ Dragon Quest แล้ว ยังมีซีรีส์ RPG นับไม่ถ้วนที่ดำเนินไปในเส้นทางเดียวกันและมาพร้อมกับรูปแบบใหม่และแตกต่าง หนึ่งในนั้นคือ Various Daylife เกมแนว RPG ใหม่จากทีมงานสร้างสรรค์เกมดังอย่าง Bravely Default, Octopath Traveler และ Triangle Strategy และได้วางขายบน Apple Arcade ขายได้สักระยะหนึ่งเเล้วและเพิ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2565 บน PlayStation 4, Nintendo Switch และคอนโซลพีซี
เรื่องราวของ “Various Daylife เกิดขึ้นหลังจากการค้นพบทวีปใหม่ที่เรียกว่า Antosia และผู้คนเริ่มตั้งถิ่นฐานในเมือง Erebia ตัวละครเอกคือชาวเมืองที่เริ่มมีประชากรล้นเมืองจนนำไปสู่ปัญหาประชากรล้นเมือง มาร่วมสำรวจดินแดนใหม่ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่คาดคิดกันเถอะ ในส่วนของการเล่าเรื่องนั้นอาจดูกว้างไปสักหน่อย เนื่องจากเน้นการเล่าเรื่องผ่านบทสนทนาของตัวละคร คล้ายกับซีรีส์ Bravely Default

กราฟิกเกม Various Daylife
เมื่อมาถึงคอนโซลและพีซี Various Daylife ยังขาดรายละเอียดอย่างน่าผิดหวัง แน่นอนว่าเนื่องจากเคยเปิดตัวบน Apple Arcade มาก่อนจึงไม่ได้ปรับแต่งให้ดูดีขึ้น เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสำหรับแฟน ๆ เกม RPG ของ Square Enix ที่มีกราฟิกที่สวยงาม เนื่องจากเหมือนกับการเล่นบนหน้าจอที่ใหญ่กว่าด้วยกราฟิกคุณภาพระดับสมาร์ทโฟน มีเพียงการออกแบบเท่านั้นที่นำมาจาก Bravely Default เพื่อให้ดูเหมือนเกม เช่นเดียวกับเพลงประกอบภาพยนตร์ มันจืดชืดและไม่มีอะไรน่าจดจำ ผ่านหูซ้ายผ่านหูขวาทำให้การนำเสนอมีมิติมากกว่าความบันเทิง แต่ข้อดีคือเราสามารถกดปุ่มได้ เพื่อยุติการเล่าเรื่องราวอันน่าเบื่อให้เร็วที่สุด ผมเชื่อว่าแฟนเกมทุกคนจะต้องกดปุ่มข้าม

รูปเเบบในการเล่น เกม Various Daylife

รูปแบบการเล่นหลักของ Everyday Life เริ่มต้นในเมือง Erebia ซึ่งผู้เล่นจะต้องหางานทำเพื่อหารายได้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ คุณต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ และสำรวจเมืองเพื่อทำให้เรื่องราวสมบูรณ์ ภารกิจหลักของเกมคือการสำรวจโลกที่เปิดกว้างในขณะที่ต่อสู้กับศัตรู และเอาชนะบอสที่โหดที่สุดในรูปแบบของเกม RPG เพื่อเปิดทางสู่ดินแดนใหม่ มันน่าสนใจยิ่งกว่านี้อีกถ้าคุณมองแบบนี้ นี่คือเกมแนว RPG จาก Square Enix ที่ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะชอบ ผู้คนคิดว่ามันเป็น Final Fantasy หรือ Bravely Default แต่เมื่อฉันเล่นมันจริงๆ มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันคาดหวังไว้ เพราะดูเหมือนผู้สร้างอยากจะคิดแตกต่างไปจากเดิม และสร้างสไตล์ใหม่ ๆ เพราะจุดแรกทุกฉากในเกมจะใช้มุมที่แตกต่างกันกล้อง 2D มุมมองด้านข้างมีมุมมองที่จำกัดมากเมื่อเล่นเกม
จุดเด่นตัวเกม

นอกเหนือจากลักษณะแบบ 2 มิติของเกมแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้สำรวจในเมืองมากนัก แม้ว่าจะมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนเลย ปัญหาหลักคือการหางานที่คุณสามารถทำงานและต่อสู้ได้ หรือการผสมผสานระหว่างงานบริการและงานที่ต้องใช้การทำงานทางจิต? แต่สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือเมื่อคุณทำงาน คุณเพียงแค่เลือกเมนูและรอให้ผลลัพธ์สำเร็จ คุณก็จะได้รับเงินและประสบการณ์ หรือล้มเหลวแล้วไม่ได้อะไรเลย แค่เสียเวลา ไม่มีรูปงานมาให้ชม.. นอกจากนี้เรายังสำรวจเมือง มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น โครงเรื่อง และสร้างความผูกพันกับเพื่อนร่วมทีม เช่นเดียวกับการกินอาหารเพื่อสังคม แต่เรื่องราวที่เล่านั้นเรียบง่ายและเน้นการอ่านมากกว่า นอกจากนี้เมืองนี้ยังมีเรื่องราวมากมายให้เราได้สำรวจเนื่องจากส่งผลต่อความลื่นไหลของเรื่องราว และคุณยังต้องตรวจสอบวันสำคัญในปฏิทินเพื่อดูว่ากิจกรรมใดบ้างที่ต้องทำให้เสร็จ และมีความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืน
ถ้าเราไม่มีความคาดหวังสูง เกม “Everyday Life” ก็สนุกมากพอแล้ว ข้อดีของระบบนี้คือง่ายต่อการเข้าใจ มีหลายพื้นที่ให้สำรวจซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่ก้น แต่ยังทำให้การเล่นเกมบนคอนโซลรู้สึกขาดอิสระมากเกินไป และเมื่อเทียบกับชื่อค่ายเกมและทีมผู้ผลิตก็ยังถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง ใครที่ชอบแนว RPG จะพบว่าเล่นได้สนุกเพราะอย่างน้อยก็เป็นเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วเหมาะกับยุคสมัยที่ คนไม่ชอบ ชอบที่จะรออะไรสักอย่าง
ติดตามรีวิวเกมใหม่ : รีวิวเกม
สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : gtaclubth
รีวิวเกมใหม่ : Sifu แอ็กชันกังฟู