ก่อนที่ฉันจะได้ DLC ล่าสุดของ Assassin’s Creed Valhalla ทีม Ubisoft ที่ฉันพูดด้วยย้ำย้ำว่า Ragnarok Dawn จะเป็น DLC เกม Assassin’s Creed ที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยสร้างมา และเมื่อตรวจสอบหลังจากได้สัมผัสกับ DLC ตัวเต็มแล้ว ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Ubisoft ถึงยึดติดกับคำกล่าวนั้น Dawn of Ragnarok มีมากมาย เควสหลัก เควสเสริม อีเวนต์เสริม และสิ่งต่าง ๆ ให้รวบรวมบนแผนที่เป็นสิ่งที่แฟน ๆ เกม Assassin’s Creed ภาคต่อ ๆ มาคุ้นเคย หากคุณยังคงหิวเนื้อหาใหม่ของ Assassin’s Creed Valhalla DLC นี้จะตอบสนองความต้องการของคุณอย่างแน่นอน แต่สำหรับแฟนเกมอื่น ๆ หรือเกมเมอร์ทั่วไป DLC นี้ให้อะไรกันแน่และคุ้มค่าแค่ไหน? มีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูกันเลย
เรื่องราว*คำเตือนเรื่องสปอยล์ พล็อตเรื่อง Assassin’s Creed Valhalla* Dawn of Ragnarok นำรูปแบบการเล่นบางส่วนจาก Assassin’s Creed Valhalla มาขยายเพิ่มเติม ผจญภัยต่อไปในฐานะ Odin ในดินแดนของคนแคระ Svartalfheim โดยมีภารกิจหลักในการช่วยเหลือลูกชายของ Baldr ที่ถูกยักษ์สังหาร เป็นการนำเสนอตำนานนอร์สใหม่ผ่านมุมมองของโลก Assassin’s Creed
โดยทั่วไปแล้วจุดเด่นของ DLC นี้น่าจะเป็นชุดเสริมสำหรับตัวละคร Odin ที่ไม่มีเวลามากนักในเกมหลัก สนใจบทบาทนี้มากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Odin ในเกมหลักถือเป็น “วายร้าย” ของโครงเรื่อง การได้กลับมาสวมบทบาทเป็น Odin อีกครั้ง (แม้ว่าเราจะเคยเล่นเป็น Odin มาแล้วในเกมหลักก็ตาม) เป็นสิ่งที่แฟนตัวยงของเรื่องราวของ Assassin’s Creed จะได้พบกับความบันเทิงในภาคนี้ การพัฒนาตัวละครของ Odin ใน DLC นี้น่าสนใจกว่าในเกม
หลัก เพราะในขณะที่ตัวเกมหลักแสดงให้ Odin เป็นเจ้าพ่อเหี้ยมที่เห็นแก่ตัว (และ DLC นี้ก็เช่นกัน) ใน DLC นี้ ผู้เล่นจะได้เห็นตัวละครมากขึ้น
อาจกล่าวได้ว่าการนำเสนอถูกดึงออกมาจากเกมหลัก กิจกรรมของผู้เล่นจะยังคงวนเวียนอยู่กับการต่อสู้ การลอบเร้น การสำรวจแผนที่ การทำภารกิจให้สำเร็จ แม้ว่าเกมจะพยายามแนะนำกลไกใหม่ (ซึ่งเรากล่าวถึงระหว่างการเล่นเกม) แต่โดยรวมแล้ว ทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้ใน DLC นี้คือทุกสิ่งที่คุณทำได้ในเกมหลัก
การนำเสนอของเกมเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ DLC และดินแดนแห่ง Svartarheim เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม เกมดังกล่าวเต็มไปด้วยความแฟนตาซี แตกต่างจาก Assassin’s Creed แบบดั้งเดิมที่เราคุ้นเคย ยิ่งไปกว่านั้น การนำเสนอ DLC นี้ยังเน้นไปที่การให้ความรู้สึกของผู้เล่นในการสำรวจโลกอย่างอิสระ กลไกหลักเช่น
เควสและการค้นหาที่ซ่อนของคนแคระนั้นอธิบายได้น้อยกว่า โดยรวมแล้ว DLC นี้เป็นแนวสำรวจและผจญภัยมากกว่าเกมหลักหรือ DLC อื่นๆ ของ Valhalla
แต่น่าเสียดายที่แม้ฉากหน้าของเกมจะฉาบด้วยความหวือหวาของแสงสีแฟนตาซี แต่โดยรวมแล้วการนำเสนอของ Dawn of Ragranok ก็ไม่ได้แตกต่างจากประสบการณ์เดิม ๆ ที่เราเคยได้รับหากจะพูดให้เห็นภาพชัดก็คือว่าถ้าคุณเป็นคนที่ Burn Out หรือเบื่อกับเนื้อหาของ Assassin’s Creed Valhalla ไปแล้ว ใน Dawn of Ragrarok ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ ๆ เพียงพอให้คุณหวนกลับมาสู่ตัวเกมได้ แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบระบบการเล่นและสนุกกับ Assassin’s Creed Valhalla และต้องการเนื้อหาใหม่ ๆ DLC ตัวนี้ก็เข้ามาตอบโจทย์คุณแบบเต็ม ๆ
ดังที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น รูปแบบการเล่นทั้งหมดของ DLC นี้เป็นการนำเกมหลักกลับมาใช้ใหม่ แต่ Ubisoft ได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่บางอย่างลงใน DLC ด้วย ที่ใช้ร่ายคาถาพิเศษ ในเกมจะมีคาถาให้เลือก 5 คาถา แต่ผู้เล่นสามารถเลือกติดตั้งได้เพียง 2 คาถา ซึ่งความสามารถเหล่านี้ช่วยเสริมเกมเพลย์หลักทั้งในด้านการต่อสู้ การไขปริศนา หรือการลอบเร้น ตัวอย่างเช่น เกม ให้ความสามารถแรกเปลี่ยน Odin ให้กลายเป็นศัตรูยักษ์ไฟ อนุญาตให้ล่องหนเพื่อเข้าใกล้ศัตรูที่คล้ายกันและความสามารถในการเดินบนลาวาที่เผาไหม้
ในระหว่างเกมฉันรู้สึกได้ว่าทีม Ubisoft พยายามให้ผู้เล่นใช้ความสามารถอย่างมาก ในเกมจริง ผู้เล่นคาดหวังว่าความสามารถเหล่านี้จะถูกปรับให้เหมาะกับสถานการณ์หรือสไตล์การเล่นเฉพาะ น่าเศร้าที่ทั้งปริศนาและการออกแบบการต่อสู้นั้น “ดี” พอที่จะทำให้เราพึงพอใจในการใช้พลังเหล่านี้เพื่อเอาชนะอุปสรรค นอกจากความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน DLC นี้แล้ว ยังมาพร้อมกับทักษะใหม่ให้ปลดล็อกอีกด้วย อาวุธใหม่เช่นง้าว Atgeir และชุดเกราะใหม่เพื่อตามล่าและสะสม
โดยรวมแล้ว Assassin’s Creed Valhalla: Ragnarok Dawn ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นจานเก่าที่แจกจ่ายและเสิร์ฟใหม่ มีการเพิ่มรสชาติใหม่ แต่รสชาติโดยรวมก็ไม่ต่างกัน
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Assassin’s Creed Valhalla อยู่แล้วและต้องการเนื้อหาใหม่ๆ กลับมาในเกม Dawn of Ragnarok คือคำตอบนั้น มันมีโลกของเกมที่น่าสนใจและโครงเรื่องหลัก โทนแฟนตาซีของเกมทำได้ดีพอที่จะช่วยลดความเลี่ยนจากเกมหลักได้ แต่สำหรับแฟนเกมทั่วไปหรือผู้เล่นทั่วไปที่ผ่านการผจญภัยใน Valhalla มาอย่างยาวนาน ไม่มีความแตกต่างมากพอในสิ่งที่ Ragnarok Dawn เสนอให้เป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและต้องดู
