รีวิว Back 4 Blood
ความล้มเหลวของ Evolved ดูเหมือนจะทำให้ Turtle Rock Studios กลับมาสู่เส้นทางอีกครั้งในตอนนี้ ในท้ายที่สุด เขาก็ไปอยู่ใต้ชายคาของ Warner Bros. Games โดยเลือกที่จะกลับไปเล่นเกมแนวที่พวกเขาถนัดอีกครั้ง และจะดีเท่าดีกรีทีมพัฒนาหรือไม่? หาคำตอบได้แล้ววันนี้ในบทความรีวิว Back 4 Blood
STORY
แม้ว่าการออกแบบตัวละครแต่ละตัวจะน่าสนใจมาก น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องหรือโครงเรื่อง เป็นส่วนที่ได้รับความสนใจน้อยที่สุด เรื่องราวของเกมไม่ได้บอกเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงหรือกำหนดไว้ และไม่ใช่ทุกที่ โลกของเกมเป็นสถานที่สมมติที่เรียกว่า Fort Hope ซึ่งมีไวรัสลึกลับแพร่กระจายไปทั่วโลก เนื่องจากเชื้อร้ายนี้เป็นการทดลองปรสิตที่มนุษย์พบ การติดเชื้อได้รั่วไหลออกมาและทำให้ผู้ที่ติดเชื้อกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือดที่เรียกว่า Riddens ในฐานะผู้เล่น คุณจะได้เล่น (หรือเลือก) หนึ่งในแปดตัวละครที่รู้จักกันในชื่อ Cleaners และทำงานร่วมกับกองทัพเพื่อหาทางหนีจาก Bastion Hope และค้นหาความหวังใหม่สำหรับมนุษยชาติต่อไป
ที่กล่าวว่าเรื่องราวเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่เกมมีให้ แต่อย่างน้อยก็ยังมีฉากคัตซีน แต่ละฉากมีบทสนทนาโดยละเอียดเมื่อเล่น ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราทราบเนื้อหาของเกมมากขึ้น (หากเราลืมตาและอ่านทัน) แต่ถ้าทีมผู้ผลิตต้องการนำเสนออย่างน้อยเรื่องราวที่สร้างขึ้นในโลกของเกมผ่านคำอธิบายหรือบันทึก ของสะสมควร สามารถทำได้ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาทำไม่ได้ ราวกับว่าโครงเรื่องเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจากไปของเขาในภายหลัง เนื่องจากไม่มีคำอธิบายหรือที่มาของประวัติตัวละครหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในฉากนี้ในหน้าเลือกตัวละครหรือหน้าเลือกฉากเล่น ลองอ่านดู เพื่อเข้าสู่เนื้อเรื่อง ดังนั้นถ้าใครอยากจะเสพเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็อาจจะไปผิดเกมสักหน่อย
และอาจมีเรื่องราวเพิ่มเติมในเกมต่อๆ ไปหลังจบเกม แต่หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะมีการอัพเดตและให้ความสนใจกับเรื่องราวมากขึ้น อย่างน้อยก็เพื่อประโยชน์ของผู้เล่น
PRESENTATION
ด้วยการนำเสนอเกมที่คล้ายกับต้นฉบับ เป็นเกมแนวเส้นตรงแต่มีพื้นที่ให้สำรวจ ค้นหาสิ่งของและตัวช่วย ดังนั้น ขนาดแผนที่ของเกมนี้จึงไม่ใหญ่นัก ให้ความรู้สึกคล้ายกับ Left 4 Dead แต่มีมุมเล็ก ๆ มุมที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นรางวัลสำหรับผู้สำรวจ ค้นหารายการมากขึ้นและใช้รายการที่เราพบทำให้เกมง่ายขึ้น ดังนั้นผู้เล่นอาจไม่ทราบเรื่องนี้ การเล่นเกมจนจบแต่ละฉากอาจใช้เวลานานกว่าเกมอื่น เนื่องจากต้องใช้เวลามากในการสำรวจทุกซอกทุกมุมนอกเหนือจากการโจมตีฝูงซอมบี้อย่างเมามัน
Fort Hope ยังเป็นฉากที่ออกแบบมาให้คล้ายกับเกมแนวเส้นตรง แต่สามารถสำรวจได้ในเกมอื่น และในฉากหน้า เราอาจกลับมาที่ฉากนี้อีกครั้ง แต่เปิดเส้นทางใหม่นำไปสู่ฉากใหม่ ทำให้ผู้เล่นหลายคนอาจไม่ชอบเพราะมันรู้สึกเหมือนเราไม่ได้เล่นในระดับใหม่เพียงแค่กลับไปที่เดิมในรูปแบบใหม่และในรูปแบบที่ผู้เล่นบางคนอาจรับไม่ได้ นี่เป็นข้อโต้แย้งเมื่อถ่ายภาพเคลื่อนไหวหรือโหลดอาวุธใหม่ ผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยชำนาญ
นอกจากนี้ยังมีส่วน Supply Line ที่คุณจะปลดล็อกการ์ดใหม่ แบนเนอร์ และฉายาใหม่ที่คุณสามารถสะสมได้ซ้ำๆ เช่นเดียวกับอาวุธและสกินตัวละคร และความยากของเกมในระดับที่สูงขึ้นนั้นท้าทายผู้เล่นอย่างมาก ทำให้ค่า Replayable หรือการเล่นซ้ำนั้นสูงมาก ซึ่งแตกต่างจากตอน Open Beta แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องชอบแนวนี้มากพอที่จะเล่น เพราะถ้าใครเบื่อง่ายรอบเดียวก็พอ สำหรับคนแบบนี้ เกมนี้อาจแพงเกินไป ทีนี้มาดูกันว่า Gameplay จะทำให้มันสนุกได้อย่างไร
GAMEPLAY
ถ้าคุณมองว่ามันเป็นเกมยิงซอมบี้ทั่วไป ไม่น่าแปลกใจเพราะดูเหมือนผิวเผิน มันไม่ได้จนกว่าคุณจะลองเล่นด้วยตัวเองความรู้สึกจะเปลี่ยนไป และแม้แต่หัวใจของเกม เกมเพลย์นั้นเรียบง่ายและสะดวก ยิงพวกมันให้หมดและหาทางไปจนจบด่าน แต่ในความง่ายนั้นทีมพัฒนาเลือกที่จะสรรหาระบบต่างๆเข้ามาในเกมนี้ ทำให้มันสนุกและน่าติดตาม
ในเกมนี้ ตัวละครทั้ง 8 มีความสามารถที่แตกต่างกัน ตั้งแต่พาสซีฟที่ส่งผลต่อตัวเองเท่านั้น ไปจนถึงเอฟเฟกต์ทีมหรือทักษะที่ส่งผลต่อสมาชิกทุกคนในทีม ไม่มีสองความสามารถที่เหมือนกันรวมถึงจำนวนของด่านตรวจ ด่านทั้ง 33 ด่านก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นไม่ว่าตัวละครที่คุณเลือกจะเก่งแค่ไหน เด็คมีพลังแค่ไหน? เกมนี้จะทำให้คุณมีปัญหา นี่เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของการออกแบบฉากในเกม ที่ไม่สามารถพูดได้คือ “นี่ไม่ใช่เกมที่ง่าย” ยิงซอมบี้ให้จบแบบสบาย ๆ แล้วคุณจะคิดผิด เพราะเกมนี้เล่นยากแม้จะเลือกเล่นด่านที่ง่ายที่สุดอย่าง Recruit ก็ตาม
ผู้เล่นจะสามารถจัดการตัวละครของพวกเขาได้ทุกครั้งที่เริ่มเล่นแต่ละฉากในครั้งนี้ คุณสามารถซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ขายอาวุธและอุปกรณ์เสริมปืนแบบสุ่ม นอกจากนี้ยังมีของใช้ต่างๆ เช่น ระเบิด กล่องอุปกรณ์ กล่องกระสุน รวมถึงขายกระสุนและเติมเลือดด้วย พวกเขาทั้งหมดใช้สกุลเงินในเกมเช่น Copper Copper ในเกมนี้สามารถซื้อได้โดยการสำรวจฉากในเกม ด้วยเหตุนี้การสำรวจจึงมีความสำคัญมาก นอกจากนี้ยังสามารถได้รับจากการทำภารกิจเสริมที่ระบบมอบหมายในช่วงต้นเกม หากทำสำเร็จ คุณจะได้รับรางวัล 500 เหรียญทองแดง
นอกจากการซื้อไอเท็มช่วยเหลือแล้ว ยังมีการอัปเกรดทีมที่มีราคาสูง แต่การอัปเกรดนี้จะให้ประสิทธิภาพแก่สมาชิกในทีมทุกคน อันนี้สำคัญมาก เพราะฉะนั้น เมื่อหาเงินไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องรวมเงินกันซื้อ ตัวอย่างเช่น ระเบิดมากขึ้น พลังมากขึ้น การรักษาและรายการการกู้คืนอื่นๆ สำหรับประเภทอื่น ๆ อาจเพิ่ม Max Stamina, Max Ammo ฯลฯ ดังนั้นหากคุณยังมีเงินอยู่ในช่วงต้นของแต่ละรอบ ให้ลองโยนคนซื้อ Team Upgrade ซึ่งจะช่วยได้มากในเกมนี้จะมีระบบ Trauma คล้ายกับ Left 4 Dead นั่นคือหากตัวละครของเราถูกโจมตี เมื่อได้รับบาดเจ็บ พลังชีวิตของเราจะถูกแบ่งออกเป็นหลอดสีขาว/สีแดงเข้ม/หลอดสีดำ หลอดสีขาวคือพลังชีวิตปัจจุบัน หลอดสีแดงคือหลอดที่เราสามารถใช้ยาฟื้นพลังได้ และหลอดสีดำคือหลอดความเสียหาย ยิ่งยิงมากเท่าไหร่ อาการบาดเจ็บก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น และพลังชีวิตสูงสุดของเราจะลดลง วิธีแก้ไขคือการรักษาโดยใช้ตู้ปฐมพยาบาลหรือตู้รักษา หรือให้ตัวละครทางการแพทย์อย่าง Doc (และการ์ด) ช่วยคุณรักษาและระบบที่เรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงของเกมนี้ที่สามารถเล่นได้ซ้ำๆ ก็คือ ระบบการ์ดและการจัดการ์ด แกรี่ เราจะได้รับการ์ดที่เราต้องทำให้สำเร็จในแต่ละระดับ จากนั้นคุณจะได้รับคะแนนเสบียงเพื่อปลดล็อกการ์ดใหม่เพื่อใช้เมื่อคุณได้รับ ผู้เล่นสามารถนำ Deck มาเองได้ และการจัด Deck ไม่จำกัด แต่ละ Deck สามารถบรรจุการ์ดได้สูงสุด 156 ใบ เกมการ์ดนี้มีการ์ดมากกว่า ดังนั้นหากเก็บครบทุกเกมจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมงอย่างแน่นอน การได้การ์ด ทำให้เราจัดรูปแบบการเล่นใหม่ๆ ได้มากมาย เช่น แนวยิง แนวค้นหา แนวประชิด และเล่นซ้ำในแต่ละครั้ง รอบนั้นแตกต่างออกไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราสบายใจ เพราะในเกมเองระบบจะให้การ์ดคอร์รัปชันมาให้เราและการ์ดคอร์รัปชันจะทำหน้าที่เป็นดีบัฟ หรือกำหนดสิ่งกีดขวางต่างๆ ให้กับผู้เล่น เช่น ด่านนี้จะถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา ทำให้การมองเห็นแย่มาก เสี่ยงต่อการโจมตีของมิวแทนต์พิเศษ หรือระดับนี้จะมีศัตรูหุ้มเกราะหรือไม่?
PERFORMANCE
Back 4 Blood ไม่ใช่เกมที่กินสเปกคอมพิวเตอร์มากนัก ดังนั้นปัญหาเรื่องกินสเปกโดยทั่วไปจะไม่ปรากฏ ปัญหาหลัก ๆ ยังคงอยู่ภายในเกมและเรามักจะพบข้อผิดพลาดแปลก ๆ เช่นตัวละครบอทเดินไปมาและติดอยู่ที่นั่น และปัญหากวนใจ เช่น การหาห้องเล่นแม้จะมีทีมเต็มแต่เมื่อกดเล่นก็ยังต้องรอเพื่อหาห้องว่าง นอกจากนี้ เวลารอก็นานพอสมควร ฉันไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไรจึงใช้เวลานานเกินไปในการหาห้อง
สำหรับการตั้งค่าของเกมนั้นมีการปรับแต่งมากมายให้เลือก ละเอียดกว่าหลายๆ เกม แต่ที่น่าสงสัยสุดๆ คือ ไม่มีภาพหรือวิดีโอปรับแต่งมาให้เราเห็นเลย แม้ว่าจะมีช่องว่างทางด้านขวา แต่ก็ไม่ได้ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ใดๆ
แต่นอกเหนือจากนั้นอาจกล่าวได้ว่าผู้เขียนเองโชคดี หลังจากเล่น 40 ชั่วโมงติดต่อกันเขาแทบไม่พบปัญหาใด ๆ ในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพเกมดีมากและ BUG เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
Back 4 Blood เป็นอีกเกมที่มีเนื้อหามากกว่าที่เราเคยเห็นหรือเคยพบในเบต้าสาธารณะที่ผ่านมา
