รีวิวเกม Contraband Police ชีวิตตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
เกมซิมูเลเตอร์ปัจจุบันเป็นเรื่องปกติ มีซิมส์งานต่างๆ มากมายให้เหล่าเกมเมอร์ได้ลองเล่น โดยงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลักลอบขนคนเข้าเมืองถือเป็นอาชีพที่หลายคนอาจสงสัย วิธีการทำงาน เกมนี้จำลองสถานการณ์นั้นมาเล่นกัน ตำรวจชายแดนทำอะไรในหนึ่งวัน? มาดูกันในรีวิว Contraband Police ของเราบทบาทของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในประเทศที่ถูกกล่าวหาทางการเมืองเวลาถูกกำหนดในปี 1981 และผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นตำรวจชายแดนคนใหม่ ผู้คนที่ประจำการอยู่ที่ชายแดนของประเทศสมมติ Acaristan ซึ่งอยู่ท่ามกลางสงครามการเมืองระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านที่เรียกว่า Blood Fist และดูเหมือนจะมีการทุจริตในหมู่ตำรวจด้วย จนกว่าเพื่อนของคุณจะตายในการแลกเปลี่ยนการแลกเปลี่ยนที่ผิดกฎหมาย

เพื่อติดตามเรื่องราวและตัวเอกของเรา
จึงปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จับตาดูผู้ลักลอบขนของเถื่อนที่อาจเริ่มสงครามใน Achariston และต้องเลือกข้างให้ชัดเจนในสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้จะเลือกอยู่ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน? สิ่งนี้ส่งผลต่อตอนจบของเกมด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็ไม่ได้สำคัญมาก นอกจากจะทำให้เราเห็นความคิดของฝ่ายปกครองและฝ่ายค้านแล้ว ผู้เล่นสามารถเลือกฉากไหนก็ได้ตามใจตัวเอง เพราะถึงมันจะส่งผลกับฉากจบ แต่ก็แทบไม่มีผลกับท้องถนนหรือการเล่นเกมเลย . แต่นี่เป็นอีกหนึ่งความพยายามของทีมพัฒนาเกมอย่างน้อยก็สามารถหาเรื่องใส่ตัวเกมจนได้ชีวิตชายแดนและภูมิภาคชายแดนที่รกร้างว่างเปล่าสิ่งที่เกมนี้นำเสนอ การติดอยู่ระหว่างพรมแดนทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อย ผู้เล่นยังสามารถขับรถไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของโลกในเกมเพื่อทำงานหรือค้นหาพื้นที่อื่น ๆ ในเกมที่ไม่ใช่แค่ผู้อพยพผ่านการแสดงผลแบบกึ่งโอเพ่นเวิลด์ ผู้เล่นสามารถใช้ชีวิตได้ตลอดทั้งเกม เป็นส่วนหนึ่งของด่านที่เราอยู่ จะมีตำรวจอื่น ๆ และพื้นที่นอกด่าน ซึ่งจะเหมือนกับชายแดนทั้งหมดของ Achariston บล็อกนี้จะมีร้านขายไม้ ร้านอาหาร ร้านค้า เหมือง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับระบบเกมทั้งหมด


นอกจากการเฝ้าจุดตรวจแล้ว
ผู้เล่นยังจะได้พบกับเกมเพลย์กึ่งโอเพ่นเวิลด์ เราสามารถขับออกไปนอกป้อมปราการได้ แต่จริงๆ มันก็เหมือนเกมแนวเส้นตรงอยู่ดี เนื่องจากพื้นที่ต่างๆ ในเกมแม้ว่าจะมีความหลากหลาย แต่ก็มีน้อยมากที่จะโต้ตอบหากคุณไม่ได้ทำเควสเนื้อเรื่อง จะมีเพียงบางพื้นที่เท่านั้น อย่างร้านที่เข้าไปซื้อของได้อย่างเดียวเป็นเกมอินดี้ซึ่งเข้าใจได้สามารถทำได้เพียงแค่ระบบในเกมค่อนข้างน่าประทับใจที่เราจะพูดระหว่างการเล่นเกมสิ่งที่จะพูดถึงอีกอย่างคือปัญหาภาษาไทยในเกม ฉันต้องบอกว่าฉันไม่ได้คาดหวัง เพราะมันเห็นได้ชัดจากการลองเล่นว่ามันกำลังส่งต้นฉบับภาษาอังกฤษไปยัง Google Translate และวางมันลงในเกมโดยไม่มีการแก้ไขและตัดต่อใดๆ อย่างไรก็ตามนี่ควรเป็นเหตุผลสำหรับเมืองหลวงของเกม แต่ฉันต้องยอมรับว่าสำหรับเนื้อหาเกมที่มีการอ้างอิงทางการเมืองหรือใช้คำศัพท์ที่ยาก การแปลนี้ช่วยได้มาก ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่ปัญหาสำหรับใครก็ตามที่อ่านออก เขียนเก่ง แต่ใครจะอ่านภาษาอังกฤษได้ดีล่ะ? เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษจะดีกว่า

แม้ว่าในเกมนี้เราจะรับบทเป็นตำรวจประจำป้อม
ตรวจคนเข้าเมือง แต่ยังมีอีกมากที่เราสามารถทำได้นอกเหนือจากนั้น เริ่มจากการตรวจคนเข้าเมืองกันก่อน หากผู้เล่นมั่นใจว่าการมองเห็นของพวกเขาแม่นยำเพียงพอและไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ เราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องคลิกที่ลิงค์ การคลิกลิงค์ข้อมูลจะทำให้ข้อมูลถูกต้องผ่านระบบตรวจสอบ แต่จะใช้พลังงาน ค่าพลังงานมีจำกัด ยิ่งเช็คหมดแรงก็ยิ่งต้องใช้เวลาเช็คนานขึ้น พลังงานนี้จะกู้คืนได้ง่ายที่สุดเมื่อเราอัพเกรดที่กำบังให้ดีพอเมื่อเวลาผ่านไป การตรวจสอบของเราค่อนข้างยากและต้องใช้รายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ ในป้อมของเรามีกระดานข่าว ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่ากฎหมายใดจะใช้บังคับในวันนั้นหรือเวลานั้น ตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้ เราอาจถูกห้ามไม่ให้รับบุคคลจากบางประเทศ เราต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดตามระเบียบ ข้อดีคือ ตัวเกมจะไม่จำกัดระยะเวลาในการตรวจสอบ เราต้องตรวจสอบนานแค่ไหน? จนกว่าจะมั่นใจว่าทำได้ทำให้เกมค่อนข้างเล่นง่าย
ติดตามรีวิวเกมใหม่ : รีวิวเกม
สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : gtaclubth
รีวิวเกมส์ : Ghostwire Tokyo