รีวิวเกม Cris Tales

รีวิวเกม Cris Tales เกม JRPG แบบเทิร์นเบสสุดคลาสสิกพร้อมกราฟิกที่น่าทึ่ง ผลิตโดยทีมงานที่ Dreams Uncorporated, SYCK, Poppy Works และจัดจำหน่ายโดย Modus Games บน Steam สำหรับ PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series, Nintendo Switch และพีซ Cris Tales จะเป็นเกมที่เน้นการเล่นเกมและเนื้อเรื่อง รูปแบบการเล่นจะใช้รูปแบบการเล่นตามบทบาทแบบญี่ปุ่นคลาสสิกที่มาพร้อมกับระบบ “เวลาแก้ไข” เป็นคุณลักษณะเฉพาะของเกม และยังเป็นจุดสนใจของเกมอีกด้วย ตัวเกมจะเผยเนื้อเรื่องผ่านภารกิจหลักและภารกิจรองต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมในอนาคต รวมทั้งผลที่ได้รับเมื่อสิ้นสุดการแข่งขันด้วย
เรื่องราวเกม Cris Tales
เรื่องราวของเกมที่ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นเด็กกำพร้าชื่อ Crisbell ซึ่งค้นพบว่าเขาคือนักเวทย์ที่เดินทางข้ามเวลาหลังจากได้พบกับมาเธียส กบพูดได้ จากนั้นเธอก็มีนิมิตเกี่ยวกับอนาคตของเมืองที่ถูกทำลายโดยวายร้ายของเรื่อง “Time Empress” ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจร่วมมือกับ Mathias และเพื่อนนักผจญภัยของเขา รับพลังจากจิตรกรรมฝาผนังของโบสถ์ในแต่ละเมืองเพื่อหยุด Time Empress ไม่ให้ทำลายอนาคต ในเกมนี้เรื่องราวของ 4 บทแรกเต็มไปด้วยเรื่องราวการผจญภัยที่สดใส และน่าสนใจจนเพลิดเพลินราวกับว่าผู้เล่นจะต้องพบกับจิตรกรรมฝาผนังในแต่ละโบสถ์ ชาวเมืองจะไขปริศนาและตั้งคำถาม และเราต้องช่วยหลีกเลี่ยงอนาคตที่พังทลาย เนื้อหาส่วนนี้เขียนในรูปแบบการสำรวจซึ่งทำให้ผู้เล่นอยากติดตาม
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น “Cris Tales” เป็นเกมเล่นตามบทบาทสไตล์ญี่ปุ่นแบบผลัดตาเล่นสุดคลาสสิก แน่นอนว่าในโหมด Overworld ของเกม ผู้เล่นสามารถสำรวจพื้นที่ สร้างทีม ซื้อไอเท็ม อัปเกรด ใช้อาวุธและอัปเกรดเพื่อเพิ่ม ความสามารถของคุณ สถิติจะเหมือนกับ JRPG ทั่วไป แต่จะมีระบบในเกมนี้ “เวลาปรับเปลี่ยน” คือจุดเด่นของเกมนี้ ร่วมเล่นเกมด้วย เพราะนอกจากจะใช้ในโหมดต่อสู้แล้วผู้เล่นยังต้องใช้มันเพื่อไขปริศนาต่างๆอีกด้วย

เกมเพลย์ Cris Tales
เกมเพลย์ของระบบ ‘ดัดแปลงเวลา’ ในเกมนี้ส่วนตัวผมคิดว่าการออกแบบน่าสนใจมาก เพราะการเปลี่ยนแปลงเวลาในโหมดการต่อสู้ของเกมนี้ส่งผลต่อกลไกและสถิติการโจมตีของศัตรู ตัวอย่างเช่น สมมติว่าผู้เล่นโจมตีศัตรูที่หุ้มเกราะเหล็กด้วยลูกโป่งน้ำจนกระทั่งมัน “เปียก” และใช้เวทย์มนตร์ Time Shift กับมัน จะทำให้เกราะของศัตรูเกิดสนิม ซึ่งจะทำให้พลังป้องกันของศัตรูลดลง

กราฟิกเกม Cris Tales

ในด้านกราฟิก จะใช้รูปแบบ จะใช้รูปแบบ ‘Papercut’ (2.5D) ซึ่งเป็นการผสมผสานสไตล์การ์ตูนเข้ากับแฟชั่นอาร์ต และใช้เฉดสีที่สดและสมบูรณ์แบบ เมื่อประกอบกับรายละเอียดและรูปแบบที่ใช้ในการออกแบบของแต่ละเมือง จากสิ่งที่เราเล่นมา มันปลอดภัยที่จะบอกว่าผู้เล่นจะตื่นตาไปกับส่วนนี้ทุกครั้ง การเลือกนักพากย์เหมาะกับบุคลิกของตัวละครเป็นอย่างดี และสิ่งที่ฉันอาจชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือส่วนที่ทีมตัดสินใจลงทุนในการแสดงเสียงสำหรับทุกบรรทัดในเกม รวมถึงประโยคนั้นเมื่อผู้เล่นบันทึกเกม
ส่วนเพลงประกอบก็มีแนวแฟนตาซีใช้เพลงผ่อนคลายผสมกับความเพลิดเพลินในการฟังแต่เพลงประกอบก็มักจะนำกลับมาใช้ใหม่ แม้ว่าผู้เล่นจะต่อสู้กับบอสก็ตาม การต่อสู้กับบอสบางครั้งจะเล่นเพลงเดียวกันกับศัตรูทั่วไป แต่โดยรวมแล้วการนำเสนอของเกมนั้นยอดเยี่ยมมากและทีมงานก็ใช้ความคิดอย่างมาก โดยเฉพาะกราฟิกที่เป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของเกมนี้ และความพยายามที่ทีมงานทุ่มเทในการพากย์ทุกบรรทัดรวมถึงการออกแบบตัวละครที่ดูเหมือนจะไม่มีความลึกมากนัก แต่ทักษะของมันแตกต่างกันและสนุกกับการเล่น ฉันเชื่อว่าผู้เล่นที่ชอบศิลปะเป็นงานอดิเรกจะชอบส่วนนี้มาก
สรุปโดยรวม

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า Cris Tales เป็นเกมที่มีองค์ประกอบหลายอย่าง หากทำได้ดีก็มีโอกาสที่จะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมได้ แต่น่าเสียดายที่เกมไม่ได้ออกมาแบบนี้ เนื่องจากข้อบกพร่องของการออกแบบเกมที่ช้าและเนื้อเรื่องและตอนจบยังเขียนได้ไม่ดีเท่ากับการนำเสนอและกราฟิก สิ่งนี้นำไปสู่การสิ้นสุดของเกมนี้
หากทีมแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เพื่อให้โดดเด่นเหมือนกับภาคเดโม ฉันอาจต้องการภาคที่สองของเกมนี้ แต่ดูที่ส่วนท้ายของส่วนนี้ หากต้องการดำเนินเรื่องต่อก็จะค่อนข้างท้าทาย เพราะแม้แต่ทีมงานก็จะปล่อยแพตช์เพื่อแก้ไขความล่าช้าของเกม ส่วนเนื้อเรื่องก็ถือว่าแก้ไขไม่ได้ในเกมที่ปล่อยออกมา
ติดตามรีวิวเกมใหม่ : รีวิวเกม
สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : gtaclubth
รีวิวเกมใหม่ : Zen Pinball Party
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : รีวิวเกม