รีวิวเกมส์ DRAGON BALL Z : KAKAROT
Dragon Ball เป็นการ์ตูนอนิเมะของ Akira Toriyama จากยุค 80-90 ที่ไม่มีใครรู้จักเด็กยุค 90 เพราะพูดกันตามตรง Dragon Ball เป็นการ์ตูนที่เปิดโลกให้กับเด็กอย่างผมในตอนนั้น คุ้นเคยกับหนังสือการ์ตูน นี่คือการ์ตูนเล่มแรกในชีวิต ฉันเก็บหอมรอมริบเพื่อซื้อมันเอง และโดยส่วนตัวแล้วฉันชอบความทรงจำเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้มาก ฉันโตมากับมันตั้งแต่ยังเด็ก เป็นแอนิเมชั่นนางฟ้าที่ดีที่สุดในใจไปแล้วได้เปิดตัววิดีโอเกมมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุค Famicom จนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบการต่อสู้แต่รู้หรือไม่ว่าเกม Dragon Ball ในยุคแรก ๆ เนื่องด้วยเทคโนโลยีของเครื่องขาวแดงเองและข้อจำกัดของเด็ก ๆ ส่วนใหญ่เป็นเกม RPG ยุคหลัง 90 อย่างผมโตมากับเกม หลัก ๆ ได้แก่ Super Nintendo, PS2, Gameboy

Story
Dragon Ball Z: Kakarot จะบอกเล่าเรื่องราวในสี่ส่วนหลัก ได้แก่ The Saiyan Saga, The Frieza Saga, The Andro Saga และ The Majin Buu Saga ไม่ทราบว่าจะมีภาค Xenoverse ที่ค่อนข้างแปลกสำหรับเรื่องราวดั้งเดิมในเกม Dragon Ball แต่เพราะมันเป็นดราก้อนบอล มันจึงเป็นอมตะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะหยิบมาดูกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ แต่ฉันจะบอกว่า DBZ: Kakarot นั้นดีที่สุดในการเล่าเรื่อง
บทสนทนานั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นหนังสือการ์ตูน
ในยุคแรกของ Saiyan Saga เกมเปิดได้ยอดเยี่ยม มันบอกเล่าเรื่องราวของ Son Goku และ Son Gohan ต่อสู้กับชาวไซย่ากับ Piccolo ศัตรูเก่าของพวกเขา ทั้งบทพูดและการพากย์ยอดเยี่ยมหลายคนรู้มีซับไทยในเกมนี้ด้วย และขอบอกเลยว่าทีมแปลเก่งมาก ตลอดทั้งเกมมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง อย่างที่คุณเห็นในเกม มันแทบจะเหมือนกันทุกประการ


การต่อสู้ระหว่างเบจิโต้ และจอมมารบูที่บอกเลยว่า โคตรมันส์
แต่อย่างไรก็ตาม พอตัวเกมดำเนินเรื่องมาถึงช่วง Android Saga มันจะมีอยู่บางช่วงที่ผมรู้สึกว่าการเล่าเรื่องมันแปลก ๆ ไปหน่อย เหมือนกับทีมงานรีบทำให้มันเสร็จ ๆ ไป แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงความรู้สึกครับ แต่พอมาถึงช่วง Majin Buu Saga เท่านั้นล่ะครับ เห็นได้ชัดเลยว่าทีมงานนั้นรีบเผางานช่วงนี้เกินไปหน่อย มีหลายฉากมาก ๆ ที่ถูกตัดออกไป ตั้งแต่ช่วง Other World, World Tournament ที่ทีมงานตัดทิ้งไปเลย ทั้ง ๆ ที่มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่ขยายโลกภายในเกมให้มากกว่าเดิมแล้วแท้ ๆ รวมไปถึงฉากอื่น ๆ ที่ทีมงานตัดสินใจเล่าเรื่องผ่าน Cutscreen แทน ทั้ง ๆ ที่ผมรู้สึกว่ามันไม่น่าจะทำแบบนั้น และน่าจะให้ผู้เล่นสัมผัสกับมันเองมากกว่า เช่นในช่วงศึกชิงเจ้ายุทธภพ ของภาคจอมมารบู ที่ทีมงานตัดส่วนนั้นออกไป ทำให้ผมอดได้เห็นฉากฮา ๆ หลายๆฉากในนั้น รวมไปถึงอดเห็นฉาก ไมตี้สมาร์ต VS หมายเลข 18 ด้วย และก็ยังมีอีกหลาย ๆ ฉากที่ถูกตัดไปเช่นกันครับ อย่างเช่นในช่วงที่โกคูกับเบจิต้าเข้าไปในตัวจอมมารบูเองก็เช่นกัน

ผมว่าถ้าจะให้เอาเกมดราก้อนบอลทุกภาคมาวางเรียกกัน แล้วให้แฟน ๆ แต่ละคนมาชี้นิ้วเลือกเกมภาคที่มีระบบต่อสู้หรือระบบการเล่นดีที่สุด ผมคงนึกภาพไม่ออกว่าเสียงจะแตกกันขนาดไหน อย่างเช่นตัวผมเอง ที่อวยภาค FighterZ สุด ๆ แต่เพื่อนผมกลับชอบภาค Xenoverse มากกว่าแถมยังไม่ชอบภาค FighterZ เลย หรือแฟน ๆ บางคนชอบภาค Budokai Tenkaichi มาก ๆ แต่ไม่ชอบภาค Budokai 3 เลยสักนิด และนี่ยังไม่นับเรื่องแนวเกม ที่มีแทบจะทุกแนวไปแล้ว
ติดตามรีวิวเกมใหม่ : รีวิวเกม
สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : gtaclubth
รีวิวเกมส์ : Marvel’s Midnight Suns