
Elex II
สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเกมนี้มาก่อน ELEX ตั้งอยู่ในโลกหลังวันสิ้นโลก ที่ซึ่งดาวเคราะห์กลุ่มหนึ่งถูกดาวหางพุ่งชนจนทำให้เกิดการล่มสลายของอารยธรรมอย่างใหญ่หลวง ที่นั่นยังมีแหล่งพลังงานลึกลับที่เรียกว่า ELEX ซึ่งผู้รอดชีวิตที่เหลือตัดสินใจใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ทำให้ฝ่ายแตกแยกโดยที่คุณเล่นเป็น Jax และจัดการกับปัญหาต่างๆ ภาค 2 เกิดขึ้นไม่กี่ปีหลังจากที่เขาเอาชนะไฮบริด ตัวร้ายจากหนังภาคแรกได้ แต่ภัยคุกคามยังไม่สิ้นสุด เมื่อสิ่งมีชีวิตลึกลับมาเยือนดาวดวงหนึ่งและกระตุ้นพลังงานมืดของ ELEX ทำให้มันกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรง Jax ต้องหาทางโน้มน้าวให้ทุกฝ่ายมาร่วมมือกัน ต่อต้านภัยคุกคามใหม่นี้
สถานการณ์ตลาดทั่วไปที่เราเห็นในภาพยนตร์และเกมเกรด B ELEX II ไม่ใช่เกมที่ยิ่งใหญ่ในตัวเอง สิ่งนี้ทำให้เรื่องราวของสนามน่าตื่นเต้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ภาคนี้ยังคงเต็มไปด้วยการหักมุม มีทั้งดี และไม่ดี คละเคล้ากันไป แต่ภาพรวมของ ELEX II ก็ยังอยู่ในระดับที่ทุกภาคควรจะมี และทำได้ดีแม้ว่าภาคแรกจะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม ใครที่เล่นภาคแรกมาแล้วอาจจะอยากกลับไปหาเรื่องย่อเพื่อทำความเข้าใจสักหน่อย

PRESENTATION
เกมนี้ยังคงเป็นเกมแนวไซไฟผจญภัยโลกกว้าง ผู้เล่นสามารถสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ มีการปรับปรุงบางอย่างในพื้นที่นี้ และสามารถติดตั้งโฮเวอร์ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ทำให้เกิดการสู้รบทางอากาศเกิดขึ้น ในฐานะที่เป็นเกมโอเพ่นเวิลด์ การสำรวจเป็นสิ่งสำคัญมาก โลกของเกมมีไอเท็ม สมบัติ ศัตรู และอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ และมันไม่ได้บอกอะไรคุณมากนัก ทุกสิ่งจะพบได้ก็ต่อเมื่อคุณค้นหามันด้วยตัวเอง ไม่มีรายการตรวจสอบที่บอกคุณว่าอะไรอยู่ที่ไหน
ฟังดูเหมือนข้อดี แต่เพราะเราไม่รู้ว่าต้องทำอะไรก่อน บทนำในเกมนี้ไม่ชัดเจนมาก ทำอะไรและที่ไหน แม้แต่ User Interface ในเกมก็ยังออกแบบให้เรียบง่ายขาดสีสันและความชัดเจน การเปิดเมนูแทนที่จะเข้าใจระบบเกมกลับทำให้งงกว่าเดิม จนบางครั้ง การเดินทางไปถึงจุดนั้นด้วยตัวเองก็อาจทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วย
แต่นอกเหนือจากนั้นกลับเต็มไปด้วยคำถามที่ตัวเกมพยายามทำให้ใหญ่ขึ้นในหลายๆ ด้าน เช่น ระบบเลือกคำตอบแบบคำถามเหมือนในแฟรนไชส์เกมใหญ่อย่าง Fallout ที่มีคำตอบให้เลือกมากกว่า 2-4 คำตอบในแต่ละครั้ง แต่ก็ช่างเถอะ เต็มไปด้วยตัวเลือกที่มีผลกระทบ หรือไม่ได้ผล? ที่สำคัญกว่านั้นคือการพยายามสาธิต Fallout ทุกที่. จนกว่า No Pride จะไม่รวมสคริปต์เสียงของตัวละคร ตัวละครหลักในเกมนี้ควรสาบานมากกว่าร้อยครั้ง นอกจากนี้ ตัวละครทุกตัวไม่น่าจดจำ เพราะโครงเรื่องและลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัวไม่น่าจะผูกมัดกันได้
ไม่มีอะไรให้เล่นในส่วนเนื้อหาของเกมยกเว้นเนื้อเรื่อง ไม่มีโหมดออนไลน์ ไม่มีโหมดผู้เล่นหลายคน เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณได้รับจากเกมในราคา 845 บาท (Steam Thailand) แค่เนื้อเรื่องล้วนๆ เอาเงินไปเล่นเกมอื่นดีกว่า ทำไม เราจะหารือเกี่ยวกับหัวข้อการเล่นเกมและประสิทธิภาพต่อไป

GAMEPLAY
ตั้งแต่ภาคแรก ELEX เป็นเกมแนวแอคชั่นสวมบทบาทที่เราเห็นได้ทุกที่ ในส่วนที่สอง เราจะเริ่มจากศูนย์ เป็นเพียงท่อเหล็กและเสื้อผ้าบางๆ สำหรับการต่อสู้ก่อนที่เราจะออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ แต่โดยหลักแล้วมันควรจะสนุก มันไม่สนุกเลยเพราะระบบการต่อสู้ของเกมนั้นแย่มาก ไม่มีความแม่นยำ Unpredictability เป็นปัญหากับ Hitbox ของตัวละครที่ออกแบบมาไม่ดี แกว่งไปมาในอากาศแต่โดนมอนสเตอร์เด้งกระเด็นนั้นมีอยู่จริงในเกมนี้
แม้ว่าตัวเกมจะมีสกิลและความสามารถที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการโจมตีระยะประชิด เวทย์มนตร์ อาวุธระยะไกล รวมถึงชุดเกราะต่างๆ แต่เมื่อเล่นไปมาจะมีศัตรูและรูปแบบการต่อสู้เพียงไม่กี่ตัว แม้ว่าในพื้นที่นี้จะมี Hover และ Jetpack เพื่อเพิ่มความหลากหลาย มันไม่ได้ช่วยอะไรมาก นอกเหนือจากการพัฒนาทักษะของคุณแล้ว คุณยังต้องหาผู้ฝึกสอนและใช้เงินเพื่อเรียนรู้อีกด้วย เป็นระบบที่ไม่ควรมีในเกมสมัยใหม่
ก็พอนับเป็นข้อดีได้อยู่นะ คือ เรื่องการออกแบบศัตรูที่ออกแบบมาอย่างดี เราจะพบสิ่งมีชีวิตและศัตรูต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลกในเกม แต่ความหลากหลายนั้นมีความหลากหลายตามการออกแบบเพราะการโจมตีของพวกเขาเข้าสู่ลูปเดิมอยู่ดี แต่อย่างน้อยการเจอศัตรูใหม่ๆก็พอช่วยให้หายเบื่อได้บ้าง แม้ในระหว่างการต่อสู้ เขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้มากนัก
ส่วนบทสนทนาและถามตอบไม่มีกรอบเวลาตายตัว ดังนั้นใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษก็สามารถเปิด Google Translate แล้วนั่งแปลภาษาได้ และเกมทั้งหมดก็เล่นวนไปวนมา จึงไม่แปลกที่ใครไม่โหดจะเล่นไม่จบ ด้วยเหตุนี้ นี่อาจเป็นบทวิจารณ์เกมที่สั้นที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา เพราะจำอะไรไม่ค่อยได้ มันก็เหมือนกับเกมทั่วไป

PERFORMANCE
ไม่มีใครคิดว่าเครื่องคอนโซลรุ่นต่อไปจะยังไม่สามารถจัดการกับเกมนี้ได้ ฉันลองเล่นเกมนี้บน XBOX Series X และน่าตกใจที่มันไม่ทำงานที่ 60fps และกำลังเล่นบนคอนโซลนั้น ไม่มีการตั้งค่าที่คุณสามารถปรับภาพใดๆ เกมประเภทไหนที่ต้องเล่นแบบนั้น เลี่ยงไม่ได้ในพื้นที่จำกัด ก็อาจจะรีดเฟรมเรตได้สูงขึ้น แต่เมื่อต่อสู้หรืออยู่ในอากาศ เฟรมเรตจะลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้เมื่อเล่นเกมนี้เพื่อสำรวจสถานที่ต่าง ๆ จะมีปัญหาเฟรมเรตตกเป็นประจำ แม้แต่เครื่อง XBOX Series X ก็ไม่สามารถรับประสิทธิภาพการเล่นเกม 60FPS ที่เกมอื่นทำได้ เรียกได้ว่าเกมนี้ตกม้าตายทุกด้าน Performance ก็ไม่แพ้กัน แถมยังเล่นบนคอนโซล ทำให้ตัวเลือกการปรับแต่งมีจำกัดทำให้มีเกมให้เล่นไม่มากนักแต่ใครเคยลองเล่นเครื่องอื่นแล้วได้ประสิทธิภาพไม่ต่างกันก็ลองมาแชร์กันได้นะครับ
เรียกได้ว่ามีพล็อตเรื่องที่คาดเดาได้ง่าย ไม่มีความตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าคัตซีนและกราฟิกที่ล้าสมัย ไม่เหมาะกับเกมรุ่นต่อไป ประกอบกับปัญหาด้านประสิทธิภาพ แม้แต่ PS5 และ XBOX Series X ก็ยังเจอปัญหากระตุก และระบบเกมที่ย่ำแย่ นี่อาจเป็นเกมที่แย่ที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2022
