รีวิวเกม Ghostwire: Tokyo ปราบผีทั่วชิบูย่าด้วยกราฟิกล้ำยุค
Tango GameWorks ก่อตั้งโดย Shinji Mikami บิดาของซีรีส์ Resident Evil และกลับมาอีกครั้งในปี 2022 หลังจากที่ผู้พัฒนาสร้างภาพยนตร์สยองขวัญสำหรับซีรีส์ The Evil Inside เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลับมาอีกครั้งกับเกมใหม่ “Ghostwire: Tokyo” เจ้าของเกมนี้เรียกความสนใจจากเกมเมอร์ได้มากมาย เนื่องจากตัวเกมมีธีมที่แตกต่างกัน เราจะต้องเผชิญหน้ากับผีญี่ปุ่นที่มีพลังวิเศษต่างๆ พวกเรา GameFever TH ได้มีโอกาสเล่นเกมนี้ให้จบ แล้วกลับมารีวิว เกม After Touch จะยิ่งใหญ่และสร้างความสยดสยองและสนุกสนานเหมือนภาคก่อนหรือไม่?

กราฟิกและงานนำเสนอ
ในแง่ของกราฟิกของงานนี้ “Ghost Thread: Tokyo” ได้เปลี่ยนเอนจิ้นการพัฒนาเป็น Unreal Engine 4 รับประกันความสวยงามของภาพได้แน่นอนครับ โดยตัวเกมจำลองย่านชิบูย่าของโตเกียวออกมาได้สมจริงมาก สามารถสร้างแลนด์มาร์กสองแห่งได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด เช่น 5 แยกชิบูย่าหรือสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ ในบริเวณนี้ ให้คุณเดินได้อย่างอิสระ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปญี่ปุ่นเป็นเวลานานเกมนี้น่าจะทำให้คุณพ่ายแพ้ ลองคิดดู ใส่รายละเอียดเอฟเฟ็กต์สกิลต่างๆ แบบไม่มีกั๊ก แถมฉากแสงเงาต่างๆ ก็สวยงาม ให้ความรู้สึกถึงเกมยุคหน้าในระดับหนึ่ง


แม้ว่าโลกจะมีความญี่ปุ่นอยู่มาก แต่บรรยากาศของเกมก็ยังคงเอกลักษณ์ของ Tango GameWorks เช่น บรรยากาศทางจิตใจที่คล้ายกับ The Evil Inside กับโลกที่บิดเบี้ยวหรือห้องที่มีบรรยากาศน่าขนลุก บรรยากาศเสียงที่น่าขนลุกตามหลอกหลอนตลอดทั้งเกมเพื่อดูว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นฉันได้เล่นเกมนี้บน PlayStation 5 เกมมีตัวเลือกภาพให้เล่น 2 แบบ ได้แก่ Quality Mode ซึ่งเน้นกราฟิกที่สวยงามแต่รันที่ 30 FPS และ Performance Mode ซึ่งกราฟิกจะดรอปลงเล็กน้อย แต่จะวิ่งที่ 60 FPS ซึ่งต่างกับภาพมาก แต่ไม่มาก (ส่วนตัวผมเลือกเล่นที่ประสิทธิภาพมากกว่าความลื่นไหล)ที่น่าเป็นห่วงคือแม้ว่าเกมจะมีโลกกึ่งโอเพ่นเวิลด์ มาสำรวจทุกซอกทุกมุมของชิบูย่ากันเถอะ แต่ในการทำภารกิจให้สำเร็จเกือบทุกภารกิจ (ทั้งภารกิจหลักและภารกิจเสริม) เกมจะบังคับให้เราไปในที่ต่างๆ เช่น บ้านคนหรือโรงพยาบาล ส่วนใหญ่เราต้องโหลดฉากใหม่มาใส่ ผู้ที่อาจไม่มีปัญหาในการเล่นเกมบนคอนโซลรุ่นใหม่หรือพีซีด้วย SSD (เกมยังคงแนะนำให้ใช้ SSD เพื่อเล่นเกมนี้) ใช้เวลาโหลดฉากประมาณ 1-2 วินาทีเท่านั้น แต่ผู้เขียนเองไม่แน่ใจว่าจะมีผลกับคอนโซลรุ่นเก่าอย่าง PS4 และ Xbox One หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเล่นและโหลดฉากที่ยาวกว่าเดิมได้อย่างไร?

โดยเรื่องราวของเกมจะพูดถึงเมืองชิบูย่าที่อยู่ดีๆ ก็โดนเหล่าวิญญานที่ถูกควบคุมโดยเหล่าคนสวมหน้ากากเข้าโจมตีจนคนในเมืองหายไปหมด ซึ่งเราจะได้รับบทเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งนามว่า Akito ที่ในระหว่างการบุกเมือง เขานั้นบังเอิญถูกวิญญานนักสืบสิ่งเหนือธรรมชาติอย่าง KK เข้าสิงทำให้เขานั้นมีพลังวิเศษในการต่อสู้กับเหล่าผีสางพวกนั้น รวมถึงเหล่าชายสวมหน้ากากก็ได้ลักพาตัวน้องสาวของเขาไป และเขานั้นก็จะต้องตามช่วยเหลือเธอให้ได้ซึ่งการดำเนินเรื่องตัวเกมจะไม่ได้ดำเนินเรื่องราวอะไรให้เรารู้มาตั้งแต่แรก แต่ตัวเกมจะค่อยๆ เปิดเผยเรื่องราวออกมาเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้ความจริง ตัวเกมจะเล่าทั้งเรื่องราวทั้งความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ กลุ่มสืบสวนสิ่งเหนือธรรมชาติ และความสัมพันธ์ของตัวเอกและน้องสาวที่มีปัญหากัน บวกกับการค่อยๆ เปิดจุดประสงค์ของศัตรู แต่ก็ต้องพูดตามตรงว่าในด้านเนื้อเรื่องของเกมนี้ค่อนข้างอ่อนพอสมควร เพราะตัวเกมมีเรื่องราวหลายประเด็นให้เราบวกกับเวลาในการเล่าเรื่องที่น้อยเพียงแค่ 15 ชั่วโมงเท่านั้นสำหรับเกมที่มีความเป็นกึ่ง Open World ทำให้หลายๆ อย่างทางผู้พัฒนาดันเล่าห้วนๆ และบางเบา อย่างเช่นเรื่องราวของกลุ่มสืบสวนสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่ถ้าหากเราอยากรู้จักพวกเขาดีพอเราอาจจะต้องไปเล่นเกมแยกอย่าง Ghostwire: Tokyo – Prelude เสียก่อน ถึงจะรู้สึกอินกับเหล่าตัวละครพวกนี้มากขึ้นเรื่องราวของพระเอกและน้องสาวที่เปิดตัวมาได้น่าสนใจบางอย่างก็เล่ามาเป็นเพียงแค่คำพูด ถึงแม้ว่าจะไปเน้นอธิบายในตอนสุดท้ายแต่มันก็ยังไม่มากพอ และประเด็นสุดท้ายที่รับไม่ได้เลยก็คงเป็นเรื่องราวของเหล่าตัวร้ายที่พล็อตมันค่อนข้างโบราณและขาดมิติเอามากๆ (แต่ไม่ขอสปอยส์นะว่าเป็นเรื่องอะไร) หรือเรื่องราวหักมุมก็ไม่มีเลย
ติดตามรีวิวเกมใหม่ : รีวิวเกม
สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : gtaclubth
รีวิวเกมส์ : DRAGON BALL Z KAKAROT