
รีวิวเกม of Mana หนึ่งเกมดันเจี้ยนเก่าแก่ในตำนานจากยุค Super Famicom รูปแบบกราฟิก 3D เหลี่ยมที่ขัดแย้งกับการเล่นเกม 2D ดั้งเดิมทำให้มีชีวิตใหม่
Mana: Mana สำหรับ PlayStation 4 เป็นการรีเมคเกมแอคชั่น RPG ยอดนิยมที่มีชื่อเดียวกันสำหรับ SNES โดยมีการปรับปรุงกราฟิก ตัวละคร และพื้นหลังใหม่ เริ่มจากภาพการ์ตูน 16 บิตเป็นโมเดล 3 มิติ มีการบันทึกเสียงพากย์ครบทุกคำที่ตัวละครพูด แต่ในส่วนของเกมเดินคลิกไปทีละช่องและมุมกล้องที่มองลงมาจากด้านบนก็ยังเหมือนครั้งแรกที่เจอเมื่อ 25 ปีที่แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมและนี่คือสิ่งที่เกี่ยวกับเกมนี้ สานต่อเรื่องราวการผจญภัยของเด็กชายผมแดง “แรนดี้” ในโลกกว้าง เขาถูกกำหนดให้สวมบทบาทเป็นผู้กล้าหลังจากดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจากแท่นหินโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อนร่วมเดินทาง “พริมม์” และ ” Popoy” จากภูมิหลังที่แตกต่างกันต้องรับหน้าที่ปกป้องโลกจากสัตว์ประหลาด และ Empire of Evil เป้าหมายของทีม Squaresoft ในตอนนั้นคือการสร้างเกมแอคชั่น RPG เพื่อแข่งขันกับซีรีส์ “Zelda” ของ Nintendo ดังนั้นระบบการเล่นของทั้งสองจึงมีความคล้ายคลึงกันโดยธรรมชาติ เกมเพลย์สไตล์แอคชั่นแบบเรียลไทม์ ผู้เล่นสามารถบังคับตัวละครให้เดิน สำรวจฉาก หลบหลีก โจมตี และโต้ตอบกับศัตรูได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลารอเทิร์น เฉพาะใน Mana Densetsu เท่านั้นที่มีเครื่องวัดพลังโจมตีอยู่ใต้แถบพลังชีวิต ซึ่งจะลดลงเป็นศูนย์ทุกครั้งที่คุณโจมตี และจะค่อยๆฟื้นคืนเป็น 100% โดยอัตโนมัติ ระบบนี้ทำให้การต่อสู้ในเกมดูมีมิติมากขึ้นเพราะเราสามารถเลือกรอจังหวะที่เกจเต็มก่อนจะพุ่งเข้าใส่ท่าไม้ตายได้ หรือกดสุ่มก่อนหวังเพียงหักขาศัตรูเพื่อเอาชีวิตรอดในสถานการณ์คับคั่ง


แน่นอนว่านี่คือเกมเล่นตามบทบาทจากผู้สร้างซีรีส์ Final Fantasy ระบบต่าง ๆ ภายในนั้นมีกลิ่นอายของเกมระดับไฮเอนด์ชื่อดังบางเกมอย่างแน่นอน ตัวละครในเกมสามารถอัพเกรดได้ผ่านการฝึกฝน และทุกครั้งที่อัพเกรดตัวละครค่าพลังชีวิตจะกลับคืนเป็นค่าเต็มตามเดิม หรือถ้าเรามีเงินเหลือก็จะมีร้านค้าในเมืองที่คุณสามารถซื้ออาวุธและชุดเกราะได้ รวมถึงโรงเตี๊ยมที่เราสามารถเช่าห้องนอนสำหรับคืนนี้เพื่อพักฟื้นและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในวันถัดไป หรือใช้เป็นจุดบันทึกเกม แต่สำหรับผู้เล่นขี้เกียจที่รู้สึกว่าเสียเวลา เกมอยู่ในรีเมคใหม่นี้ ทีมพัฒนาใจดีพอที่จะเพิ่มคุณสมบัติ “บันทึกอัตโนมัติ” ซึ่งจะเก็บข้อมูลบันทึกทุกครั้งที่คุณตัดฉากใหม่ แต่ที่ฉันพยายามฉันแนะนำให้คุณขยันและช่วยตัวเอง อย่าพึ่งพาระบบใหม่นี้มากเกินไป โหลดข้อมูลบันทึกอัตโนมัติหากคุณไม่ต้องการให้ตัวเองเผชิญกับวิกฤต แล้วฉันก็เห็นว่าตัวละครตัวนั้นดูเยือกเย็นเหลือแต่หยดเลือดเดินเคียงข้างเรากับผู้ร่วมเดินทางที่กลายเป็นวิญญาณสีเทาแต่เขาช่วยอะไรเราไม่ได้ นี่คือการอัปเดตทันทีก่อนที่ตัวละครของเราจะตายอันเป็นผลมาจากระบบบันทึกอัตโนมัติ

จากภาพประกอบ หลายคนสังเกตเห็นว่าเกม “Mana: Mana Densetsu” รีเมคนี้ นอกจากนี้ยังเพิ่มคำบรรยายภาษาไทย นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของซีรีส์ นี่คือเกม RPG เกมแรกของโลกที่มีครบทุกอย่าง รองรับคำภาษาไทยอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากเกมภาษาไทยที่ผ่านมามีแต่รูปแบบการต่อสู้อย่าง Marvel vs. Capcom: Infinite หรือเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัยล่าสุดอย่าง Shadow of Colussus ที่มีการต่อสู้มากมาย พูดน้อย และทำเพลงประกอบ แต่พอมาเป็นเกมแนว RPG อย่างเกมนี้ ตัวละครก็น้ำลายสอคุยกันทั้งเรื่องเลย แปลไทยก็ใช้ได้ เรียกได้ว่าเข้าใจง่าย ไม่งง ไม่หลงทาง จากมุมมองของฉันการแปลค่อนข้างสมบูรณ์ 99.99% แม้ว่าจะมีคำภาษาอังกฤษ Yes, No, OK อยู่บ้าง แต่พอให้อภัยได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่

สำหรับเกมเมอร์วัย 30 กว่าๆ ที่ได้เห็นยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของวิดีโอเกม ฉันทราบดีว่าเกมการ์ตูน 2 มิติจะเปลี่ยนเป็นกราฟิก 3 มิติในทันทีเพื่อให้แฟนเก่ารู้สึกยอมรับ มันไม่ง่าย. เพราะที่ผ่านมามีซีรีส์หลายเรื่องที่ลองผิดลองถูก เจ็บหนัก บทเรียนเหล่านั้นมันกลับมาสอนสติ อีกครั้ง Square Enix ได้ยินจากการตอบสนองของเกมซึ่งค่อนข้างเป็นลบ ยกเว้นระบบเกมเพลย์แบบโบราณไม่มีสิ่งปรุงแต่งที่หลายคนบ่นถึง นอกจากนี้ยังมีกราฟิก “3D” สำหรับเกม ใครดูแล้วไม่ประทับใจหรือน่าติดตามและน่าตื่นเต้นกว่าเกมสมัยนี้บ้าง มันยังหลอกตา และทำให้ทุกอย่างมีลักษณะเฉพาะตัว ดูกลมกลืนกับพื้นหลังจนผู้เล่นแยกไม่ออกว่าเห็นอะไร มันคือหญ้า หรือศัตรู?
ติดตามรีวิวเกมใหม่ : รีวิวเกม
สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : gtaclubth
รีวิวเกมใหม่ : MIA Online